เนื่องจากภาษาจีนเริ่มเข้ามามีบทบาทในประเทศไทยมากขึ้น ดังนั้นในปัจจุบันจึงมีจำนวนการเรียนการสอนภาษาจีนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรียนแค่เฉพาะภาษาจีนตามสถาบันกวดวิชาต่างๆเพื่อให้สามารถสื่อสารภาษาจีนได้ หรือตามที่สถานศึกษาต่างๆได้บรรจุวิชาภาษาจีนลงไปในการเรียนการสอน เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ทั้งภาษา และวัฒนธรรมต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงผู้ที่มีความชื่นชอบในด้านต่างๆของประเทศจีน ผู้ที่ทำการค้ากับชาวจีน หรือผู้ที่กำลังศึกษาภาษาจีนด้วยตนเอง
***วิธีการอ่าน และนับจำนวนเพิ่มเติม
การอ่านหลักสิบ ให้อ่านจำนวนหลักสิบก่อน แล้วตามด้วยหลักหน่วย ดังนี้
11 = 十一 shíyī (สือ อี)
25 = 二十五 èrshíwǔ (เอ้อร์ สือ อู่ว)
44 = 四十四 sìshísì (ซื่อ สือ ซื่อ)
การอ่านหลักร้อย ให้อ่านจำนวนหลักร้อยก่อน แล้วตามด้วยหลักสิบกับหลักหน่วย ดังนี้
120 = 一百二十 yībǎi èrshí (อีป่าย เอ้อร์ สือ)
145 = 一百四十五 yībǎi sìshíwǔ (อีป่าย ซื่อ สือ อู่ว)
และจะแบ่งออกเป็นกรณีพิเศษ ดังนี้
1. เมื่ออ่านตัวเลขหลักร้อยที่มีเลข “0” อยู่ตรงกลาง
101 = 一百零一 yībǎi líng yī (อีป่าย หลิง อี)
409 = 四百零九 sìbǎi líng jiǔ (ซื่อป่าย หลิง จิ่ว)
2. เมื่ออ่านตัวเลขที่ขึ้นต้นด้วยเลข “2” ตั้งแต่หลักร้อยขึ้นไป
200 = 两百 liǎng bǎi (เหลียงป่าย)
222 = 两百二十二 liǎngbǎi èrshíèr (เหลียงป่าย เอ้อร์สือเอ้อร์)
2,008 = 两千零八 liǎng qiān líng bā (เหลี่ยงเชียน หลิง ปา)
250,000 = 二十五万 èrshíwǔ wàn (เอ้อร์สืออู่วว่าน)
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับการอ่านตัวเลข 1-100 เป็นภาษาจีน ไม่ยาก แล้วก็ไม่ง่ายไปซะทีเดียวใช่รึเปล่าคะ เหล่าซือของผู้เขียนมักจะบอกเสมอว่า การเรียนรู้ภาษาต้องฝึกฝนบ่อยๆ พอเริ่มชิน เราก็จะได้ภาษานั้นๆเองนะคะ
ส่วนในตอนต่อไปของการอ่านตัวเลขในภาษาจีนนั้น ผู้เขียนจะนำอะไรมาอธิบายเพิ่มเติมบ้าง รอติดตามดูนะคะ กับ “การอ่านตัวเลขในภาษาจีน ตอนที่ 2”